เจอกับเทคโนซังโนมาบอกเล่าซึ่งนี่คือฉากจบช่วงสุดท้ายในฉบับมังงะแน่ๆว่านานัปการ
เหตุการณ์สำหรับแฟน SlamDunk ก็น่าจะรู้และคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว ว่ามันจะกำเนิดอะไรขึ้นบ้าง แม้กระนั้นถึงจะรู้อยู่แล้ว ตัวหนังก็ยังสามารถถ่ายทอดออกมาให้เราบันเทิงใจ ตื่นเต้น เร้าใจ ในเกมการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังเติมเต็มเรื่องราว บอกเล่าได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วก็ไหลลื่นมากมายๆในฐานะแฟนของ Slam Dunk รู้สึกติดใจ เต็มอิ่มแล้วก็แฮปปี้กับหนังเรื่องนี้มากๆและที่มันน่าประทับใจขนาดนี้ก็อาจจะเพราะว่าคุณครู ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ มานั่งแท่นกำกับรวมทั้งเขียนเรื่องราวเองด้วย หลักๆตัวหนังจะมีใจกลางสำหรับเพื่อการเล่าเรื่องอยู่ที่ตัวละคร มิยางิ เรียวตะรีวิวSlamDunk การ์ดร่างเล็กของโชโฮลุก พวกเราจะได้เห็นมุมมอง วิธีคิด เหตุการณ์รวมทั้งสถานะการณ์ต่างๆที่ผู้แสดงนี้จำเป็นต้องจัดการในเกมการแข่งขันชิงชัยกับซังโน ซึ่งด้วยความที่ตัวหนังใช้วิธีตัดสลับการแข่งขันกับเหตุการณ์ในอดีต เราจะได้เห็นการประลองอันดุเดือดเลือดพล่าน สลับกับทราบเบื้องลึกเบื้องหลังขยายความเรื่องราวในอดีตของนักแสดงนี้ในหลายๆแง่ รวมทั้งมันคือตัวขับเรื่องราวความเป็นดราม่าของหนังเรื่องนี้ได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากว่าจริงๆถ้าไม่เห็นว่ามันผลิตขึ้นมาจากมังงะ มันก็เป็นหนังกีฬาดราม่าดีๆเรื่องนึงได้เลย ในเวลาเดียวกันกับผู้แสดงอื่นๆในทีม ไม่ว่าจะเป็น อาคางิ, มิสึอิ, รุคาว่า และก็ซากุรางิ ก็มี
แอร์ไทม์โชว์หรูของตนสำหรับในการแข่งเช่นกัน แม้ว่าฉากย้อนอดีตจะไม่ได้เน้นย้ำหรือเจาะลึกเท่าไม่ยางิก็ตาม แต่เท่านั้นมันก็เพียงพอต่อการเล่าเรื่องราว เพราะมันไม่ได้รู้สึกขัดแม้กระนั้นอารมณ์สำหรับเพื่อการเล่าเรื่องอะไร เปลี่ยนไปเป็นไหลลื่นกลมกลืนไปกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี รีวิวSLAMDUNK ภาค1ในทางตรงกันข้ามทางฝั่งของ เทคโนซังโน ก็ได้มีการตัดหรือลดทอนการสนทนาของตัวนักกีฬาลงไปเยอะเช่นเดียวกัน แอบอย่างให้มีบ้าง ในด้านการเล่าเรื่องก็เข้าใจได้ในเหตุผล ด้วยเหตุว่าหนังปรารถนาย้ำเล่าถึงสมาชิกกลุ่มโชโฮปะทุเสียมากกว่า แม้กระนั้นถึงกระนั้นเหตุในสนามแข่งก็ได้ถูกถ่ายทอดออกมาจนกระทั่งแทบครบถ้วนบริบูรณ์ แน่นอนว่ามีบางสถานะการณ์ถูก
ตัดทิ้ง แต่เรื่องสำคัญต่างๆที่ต้องมีก็มีมาอย่างครบถ้วน อย่างที่บอกนี่คือหนังสำหรับแฟน Slam Dunk อย่างแท้จริง คือเอาจริงๆถ้าเกิดไม่ใช่แฟน บางครั้งอาจจะไม่เข้าใจมุก หรือนิสัยใจคอผู้แสดงสักเท่าไหร่ เช่นเพราะเหตุไร ซากุรางิไม่จ่ายบอลให้รุคาว่า เป็นคนไม่เคยอ่านจะไม่รู้เรื่องเลยว่าเพียงแค่ฉาก “ตีมือ” กันของรุคาว่ากับซากุรางิ มันพิเศษอย่างไรรีวิวSLAMDUNK ภาค2 อะไรประมาณนั้น หนังกล้าที่จะเล่าเลยไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาปูเรื่องราวอะไรอะไรก็ตามเนื่องจากนี่เป็นของขวัญแก่แฟน Slam Dunk แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งยังแฟนและไม่ใช่แฟนของประเด็นนี้รู้สึกตรงกันแน่นอน โน่นเป็นความระทึกใจ ความเร้าอารมณ์ในการแข่งแมชนี้ คือต่อให้แฟนจะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ต่อไปในแต่ละเรื่องราว แต่ว่าตัวหนังด้วยส่วนประกอบต่างๆทั้งมุมกล้อง ภาพ วิธีเล่า เสียง มันรวมกันถ่ายทอดสถานะการณ์เหล่านั้นออกมาได้สนุก เพลินตามากกกก ยิ่งซีนช่วงท้ายเกมนี่โคตรเข้มข้น ตื่นเต้น เร้าใจ กระทั่งทำให้จำเป็นต้องกลั้นลมหายใจ นั่งไม่ติดเบาะเลยทีเดียว เป็นรีวิวSLAMDUNK ซับไทยในตอนอ่านมังงะอะ มันก็สนุก ลุ้นอยู่แล้วนะ พอได้มาเห็นภาพเคลื่อนในรูปแบบหนังอนิเมชันในโรงภาพยนต์นี่มันโคตรสุดยอดจริงๆสนุกสนานมากมาย ซึ่งพวกเราเชื่อว่าถ้าหากผู้ที่มิได้เป็นแฟนเรื่องนี้มาดูก็จะรู้สึกไม่ต่างจากพวกเรา เนื่องจากมันถ่ายทอดเกมการแข่งขันชิงชัยออกมา
ได้ดีจริงๆมันบิวต์ มันสร้างอารมณ์และหลังจากนั้นก็ค่อยๆพีคขึ้นเรื่อยมาเอ่ยถึงงานภาพหนังอนิเมชันที่มีเอกลักษณ์ แน่ๆมันมิได้ไหลลื่น 120fps หรืองามประทับใจเสมือน Makoto Shinkai แต่มันก็สวยงามในแบบของมันเป็นการประสมประสานภาพ 2D แล้วก็ 3D ได้อย่างพอดีรีวิวSLAMDUNK มาใหม่วันไหน บางช่วงแบบเสมือนลายเส้นกำลังวาด ให้อารมณ์เสมือนเปิดกระดาษภาพเร็วๆที่ช่วยขับเคลื่อนอารมณ์ได้ดิบได้ดีด้วยเหมือนกัน ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เป็นงานด้านเสียง ดนตรีประกอบก็บันเทิงใจตื่นเต้นแล้วจัง จังหวะ SFX ต่างๆก็เข้ามาถูกจังหวะ ที่ถูกใจเป็นการตัดต่อเสียง ที่พอดีมากมาย ยิ่งในช่วงท้ายของการแข่งขันชิงชัยคือโคตรเหมาะสมที่สุดจริงๆงานด้านเสียงเลิศเลอเลย ชมกันมา
แล้ว มาถึงจุดติเตียนกันบ้างดียิ่งกว่า สิ่งแรกเลยเป็นเรื่องซับไทย
คือตอนไปดูเรื่องนี้เราไปดู soundtrack แล้วก็มีหลายจุดที่เอ๊ะกับการแปลของเรื่องนี้เป็นอันมาก ทั้งยังการใช้สรรพนามเรียกบุคคลต่างๆ, แปลดังว่ามิได้เข้าใจความเกี่ยวเนื่องของผู้แสดงสักเท่าไหร่, การแปลไม่ถูกความหมาย, รวมทั้งเรื่องชื่อจริงละคร จนกระทั่งบ่อยครั้งพวกเราจำต้องอ่านดูดซับอังกฤษพร้อมกันไปด้วย นับว่าน่าเสียดายจริงๆไม่รู้เช่นกันว่าบรรยายไทยแปลมาเป็นเยี่ยงไร รีวิวSLAMDUNK ภาคไทยไม่มีโฆษณาอีกจุดนึงที่แอบเสียดายคือ ไหนๆก็เติมเต็มเรื่องราวไปแล้ว ก็อยากที่จะให้สรุปเรื่องราวอนาคตของแต่ละผู้แสดงสักนิดว่าเป็นยังไงต่อ, การแข่งขันข้างหน้า, แอบต้องการเห็น Slam Dunk 10 Days After ในหนังแบบเดียวกันนะ แต่นั่นแหละ อาจจะเนื่องจากด้วยความตั้งใจของคุณครูเองว่าชีวิตไม่เป็นตามหวังมันก็ไม่ใช่ตอนสุดท้าย ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่ให้สงสัยถึงหัวข้อต่างๆแม้กระนั้นการจบแบบนี้มันก็เป็นการจบที่สมบูรณ์แล้ว แล้วก็สำหรับแฟน Slam Dunk ไปดูเถอะ หนังเรื่องนี้เซอร์วิสพวกท่าน คุณครูตั้งอกตั้งใจทำมาเป็นของขวัญเพื่อมอบให้พวกท่านจริงๆสปอยหนัง
